ปีศาจแดง ภายใต้การคุมทีมผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างรูเบน อโมริม ที่เตรียมจะประเดิมการทำงานนัดแรกอย่างเป็นทางการในการบุกเยือนอิปสวิช ทาวน์ วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ และเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่อย่างเป็นทางการ
ปัจจุบันแมนฯยูไนเต็ด รั้งอยู่ในอันดับที่ 13 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก หลังจากแข่งขันไป 11 เกม แต่ก็มีคะแนนห่างจากพื้นที่ท็อปโฟร์เพียง 4 คะแนนเท่านั้น ทำให้ทุกอย่างยังเปิดกว้างพอสมควร
เรื่องการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก คงยังไม่มีใครกล้าหวังในเวลานี้เมื่อมีคะแนนตามหลังลิเวอร์พูล จ่าฝูงของลีกถึง 13 คะแนน
แน่นอนว่าแฟนบอลต่างคาดหวังกับผลงาน และอันดับของทีมจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับผู้คนในวงการฟุตบอล ทั้งอดีตนักเตะ, กูรู, นักวิเคราะห์, นักเก็บสถิติ และอีกหลายคน ต่างแสดงความคิดเห็นถึงอันดับของทีมหลังจากจบฤดูกาล 2024-25
ปีศาจแดง จะจบอันดับที่เท่าไหร่ในฤดูกาล 2024/25
- บาร์นีย์ คอร์คฮิลล์ (บรรณาธิการ)
อโมริมทำผลงานกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้อย่างยอดเยี่ยม จนถึงขนาดเคยเป็นเป้าหมายของลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ห่างมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีม ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดึงตัวมาคุมทีมได้สำเร็จ
การจบในตำแหน่งท็อปโฟร์ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอโมริม เมื่อลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ และอาร์เซน่อล ดูมีความสม่ำเสมอ และนักเตะเล่นด้วยกันมาอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่ทีมของอโมริมจะต้องแข่งกับเชลซีเพื่อจบในอันดับที่ 4
- แม็ตต์ ลอว์ (บรรณาธิการฟุตบอล)
การขาดกองหน้าตัวความหวังสำหรับการทำประตู ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อตัวเลือกในแดนหน้าของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แอสตัน วิลล่า, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส แม้แต่กระทั่งไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ก็ยังดูดีกว่า
ลิเวอร์พูล และแมนฯ ซิตี้ การันตีตำแหน่งท็อปโฟร์ไปแล้ว แต่ทีมของอโมริมก็มีโอกาสสอดแทรกขึ้นไปเกาะกลุ่มดังกล่าวได้ หากอาร์เซน่อล และเชลซี ไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอในผลการแข่งขันได้
- โจนาธาน โอเช (นักข่าว)
เมื่อมองไปยังทีมในกลุ่มบนของตารางคะแนน ถือว่าเป็นทีมในระดับที่แข็งแกร่งระดับหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอโมริมที่จะคุมทีมทำอันดับขึ้นไปได้
อันดับ 6 หรือ 7 ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นอันดับที่ดีกว่าเทน ฮาก ในฤดูกาลที่แล้ว ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
- แอนดรูว์ เดลานีย์ (นักข่าว)
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และฟูแล่ม สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยผลงานในช่วงต้นฤดูกาล แต่ไม่ใช่ในระยะยาว ทำให้อโมริมมีโอกาสพาทีมลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า แต่สุดท้ายก็น่าจะเป็นเชลซที่ตามหลังลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ และอาร์เซน่อล เพื่อจบตำแหน่งท็อปโฟร์