มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาประกาศการแข่งขันฟีฟ่าเดย์ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2024 ว่าทีมชาติไทย จะแข่งขันอุ่นเครื่องกับทีมชาติเลบานอน
ทัพ ” ช้างศึก ” เพิ่งคว้าแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 16 ในการแข่งขันครั้งที่ 50 โดยจัดการแข่งขันที่จังหวัดสงขลา ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบันไทย อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งอยู่ที่ 100 ของโลก และได้รับคมชื่นชมไม่น้อยในยุคของมาซาทาดะ อิชิอิ ว่าเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม ระบบการเล่นดูแข็งแกร่งขึ้น
ก่อนหน้านี้แผนเดิมในการอุ่นเครื่องทีมชาติเดือนพฤศจิกายน ยังมีการแข่งขันกับทีมชาติเยเมน 1 นัด และต้องเลือกหาทีมแข่งอีกนัด โดยทางสมาคมฟุตบอลตัดสินใจเลือกเลบานอน ในการแข่งขัน
ทว่าสุดท้ายเยเมน ได้แจ้งขอถอนตัวจากการแข่งขันในการอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย ทำให้ตอนนี้เอฟเอไทย ต้องมองหาคู่แข่งทีมใหม่มาแทนที่ ที่จะแข่งกันในโปรแกรมเดิมวันที่ 17 พฤศจิกายน
มาดามแป้ง เลือกแล้วส่งไทยพบกับ เลบานอน ยกระดับทีม
สำหรับเลบานอน ในตอนนี้อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งอยู่ต่ำกว่าไทยหลังพวกเขาอยู่อันดับที่ 114 ของโลก โดยเมื่อช่วงปี 2018 พวกเขาเคยขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีที่สุดคือ 81 ของโลก
ในส่วนของอันดับโลกอัพเดตจากเดิมถือว่าเลบานอน มีอันดับที่ดีขึ้น หลังจากขึ้นจากที่ 116 มาเป็น 114 แต่ยังเป็นอันดับที่รองกว่าไทย ณ เวลานี้
” ทัพช้างศึก ” อันดับฟีฟ่าทรง ๆ มาตลอดปี 2024 โดยอยู่อันดับที่ 101 กับ 100 สลับกันไปมาเรื่อย ๆ ซึ่งช่วงยุคของอิชิอิ ทีมทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง
ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าทีมที่จะมาแทนเยเมน คือทีมอะไรหลังจากมีการแจ้งถอนตัวเนื่องจากปัญหาในการเตรียมทีม โดยแฟนบอลชาวไทยหวังว่าอยากเห็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งเพื่อวัดประสิทธิ์ภาพของทีม
นอกจากนี้โปรแกรมฟีฟ่าเดย์เดือนพฤศจิกายน 2024 ยังไม่มีการยืนยันสนามแข่งขันว่าจะจัดในจังหวัดกรุงเทพมหานคร หรือจากออกไปแข่งขันที่ต่างจังหวัด เหมือนศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 และเป็นการคว้าแชมป์นอกเมืองหลวงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ
มาซาทาดะ อิชิอิ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น พาทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งด้วยการเก็บชัยชนะ 4 เกมติดต่อกัน โดยสามารถเอาชนะซีเรีย 2-1, ชนะฟิลิปปินส์ 3-1, ชนะเวียดนาม 2-1 และชนะสิงคโปร์ 3-1